top of page
S__16728080.jpg

B STRONG

ออกเบาฯ ช่วยคุณแก้ปัญหา

มวลกล้ามเนื้อลดลง (sarcopenia)

แรงขาเริ่มถดถอยลง

ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยคืออะไร ?

 

ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia)

เป็นการลดลงของมวลกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ส่งผลต่อสมรรถนะของร่างกาย เมื่ออายุเข้าสู่อายุช่วง 40 ปีขึ้นไป

ร่างกายจะเริ่มมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

"เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป

การสลายของมวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มมากถึง 15% ทำให้เห็นได้ว่า

มวลกล้ามเนื้อของเราจะหายไปถึง 1 ใน 3"

โดยภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยลง

ในผู้สูงอายุถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยง

ในการหกล้ม เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย กระดูกหัก หรือ ร้าว

ส่งผลกระทบกับสุขภาพ และการทำกิจวัตรประจำวัน

ฟีดแบ็คจากผู้เข้าโปรแกรม กับบีสตรอง

บีสตรอง คืออะไร 

ติดตามเคล็ดลับดูแลสุขภาพในวัย 50+ โดย “โค้ชเอ้”

และทีมผู้เชี่ยวชาญจาก B STRONG THAILAND ได้ที่

วิธีที่ 2 ลุกนั่ง 30 วินาที

วิธีทดสอบโดยการลุกนั่งจากเก้าอี้ว่าสามารถทำได้กี่ครั้งในเวลา 30 วินาที  เป็นการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและก้นที่ใช้ในการลุกขึ้นยืน เดินขึ้นบันได หรือลงนั่ง  

วิธี 1 การยืนขาเดียว

เป็นการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาแต่ละข้าง ว่ามาสามารถทรงได้ดีมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในช่วงอายุเดียวกัน ให้เตรียมนาฬิกาจับเวลา เมื่อพร้อมให้ยืนตรง เท้าสองข้างชิดกัน มือวางข้างลำตัว (เพื่อความปลอดภัยให้มีกำแพงหรือโต๊ะเพื่อให้เกาะได้ขณะทดสอบ สำหรับเวลาที่อาจเสียสมดุลย์) 

การทดสอบมีขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มจากทดสอบขาข้างขวา โดย วางมืออยู่ข้างลำตัว

  2. ยกเท้าซ้ายสูงขึ้นจากพื้นอย่างน้อย 12 นิ้ว และเริ่มจับเวลา

  3. จับเวลาขณะยกเท้าซ้าย หยุดเวลาเมื่อมีการเซ หรือเสียสมดุลย์

  4. บันทึกเวลา และ สลับไปทำอีกข้าง 

  5. ทำทั้งหมด 3 ครั้งและหาค่าเฉลี่ย

 

ให้เทียบเวลาค่าเฉลี่ยของคุณกับค่าเฉลี่ยจากงานวิจัย  ด้านล่างนี้

อายุ 50 - 59 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 37 วินาที

อายุ 60 - 69 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 27 วินาที

อายุ 70 - 79 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 19 วินาที

การทดสอบมีขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มจากทดสอบขาข้างขวา โดย มืออยู่ข้างลำตัว

  2. ยกเท้าซ้ายสูงขึ้นจากพื้นอย่างน้อย 12 นิ้ว และเริ่มจับเวลา

  3. จับเวลาขณะยกเท้าซ้าย หยุดเวลาเมื่อมีการเซ หรือเสียสมดุลย์

  4. บันทึกเวลา และ สลับไปทำอีกข้าง 

  5. ทำทั้งหมด 3 ครั้งและหาค่าเฉลี่ย

 

ให้เทียบเวลาค่าเฉลี่ยของคุณกับค่าเฉลี่ยจากงานวิจัย  ด้านล่างนี้

อายุ 50 - 59 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 37 วินาที

อายุ 60 - 69 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 27 วินาที

อายุ 70 - 79 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 19 วินาที

3 สาเหตุที่ “มวลกล้ามเนื้อลดลง”

1. การใช้กล้ามเนื้อลดลง หรือออกกำลังกายน้อยเกินไปการออกกำลังไม่เพียงพอ

เพราะว่าในผู้สูงอายุบางคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย โดยชีวิตนั่ง ๆ นอน ๆ และเมื่ออายุเยอะขึ้นสิ่งที่เกิดตามมา คือ ร่างกายจะมีการสูญเสียกล้ามเนื้อมากกว่าการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อของเราลดลงไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี

​2. การบริโภคอาหารที่ลดลง โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีนเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น

กล้ามเนื้อมีการสูญเสียประมาณ 1 - 2% ต่อปี โดยปริมาณที่ควรบริโภคขึ้นอยู่กับปริมาณและความหนัก ของกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันนั้น ๆ ซึ่งเมื่อมีการบริโภคโปรตีนลดลงก็จะทำให้การสร้างกล้ามเนื้อลดลงไปด้วย โดยเฉลี่ยควรบริโภคโปรตีน 1-2 กรับ ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล (เช่นหนัก 50 กิโลควรบริโภคโปรตีน 50-100 กรัม เป็นต้น)

​3.ฮอร์โมนลดลง ทำให้การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ไม่ทันกับการสูญเสียของกล้ามเนื้อที่หายไปในแต่ละวัน ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง ระบบกล้ามเนื้อและการเผาผลาญมีประสิทธิภาพลดลง รู้สึกไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง หรือ ความแข็งแรง กล้ามเนื้อลดลง

โดยมีวิธีดังนี้  

  1. นั่งบนเก้าอี้ที่สูงจากพื้น 17 นิ้ว

  2. วางมือทั้ง 2  ข้างไว้ที่หน้าอก  

  3. เริ่มลุกขึ้นยืน และนั่งลงให้ได้มากที่สุดในเวลา 30 วินาที 

  4. เมื่อหมดเวลา ให้เทียบจำนวนครั้งของคุณกับตารางด้านล่าง

อายุ 60 - 64 ปี ผู้ชาย 14 ครั้ง  ผู้หญิง 12 ครั้ง 

อายุ 65 - 69 ปี ผู้ชาย 12 ครั้ง  ผู้หญิง 11 ครั้ง 

อายุ 70 - 79 ปี ผู้ชาย 12 ครั้ง  ผู้หญิง 10 ครั้ง 

แหล่งที่มา คำแนะนำของ CDC 

Exclusively at Our Online Store

B STRONG

01.

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น มือหรือแขน ให้มีกล้ามเนื้อและมีแรงมากขึ้น แนะนำ Set Upper Body >

02.

เพิ่มตวามแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น ขา เพื่อช่วยในการยืนการเดินที่นานขึ้น มั่นคงขึ้น  แนะนำ Set Lower Body >

03.

เพิ่มฮอร์โมนการเติบโต (Growth Hormone) 

เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มมวลกระดูก เพื่อการชลอวัย 

(anti-aging) แบบวัดผลได้ แนะนำ Set Full Body >

แค่ใส่สายรัด B Strong กล้ามเนื้อก็แข็งแรงได้

เพียงออกกำลังกายเบาๆ

เพิ่มโกรทฮอร์โมนร่างกาย ด้วยสายรัด B Strong

กับ "โค้ชเอ้"

เปรียบเทียบ 3 โปรแกรม เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

ในส่วนนี้เราพูดถึงแค่เรื่องของการบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่อีก 2 ปัจจัยที่สำคัญคือการพักผ่อน และการทานโปรตีนให้เพียงพอเพื่อเป็นสารอาหารที่ใช้ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับเราได้  ทางเลือกในการออกกำลังกายมีหลายทางเลือกด้วยกัน แต่เราจะเปรียบเทียบใน 3 โปรแกรมด้วยกัน

โปรแกรมที่ 1 ออกกำลังกายเองที่บ้าน  ใช้บอดี้เวท ใช้ถุงทราย ดัมเบล step-up เสื่อโยคะ

ค่าใช้จ่าย (*) สำหรับบอดี็เวท ไม่มี คชจ.  ค่าอุปกรณ์เช่นดัมเบล ถุงทรายราคาย่อมเยาว์

ข้อดี  ออกได้เอง ออกเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเดินทาง ใช้ต้นทุนอุปกรณ์ต่ำ ทำได้ทุกวัน

ข้อเสีย น้ำหนักที่ใช้อาจเบาเกินไปทำให้กล้ามเนื้อไปไม่ถึงจุดล้า ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีเป็นอย่างน้อย ท่าที่ใช้ออกอาจไม่ตรงจุดกับมัดกล้ามเนื้อที่ต้องการ

ระยะเวลาในการเห็นผล (*) ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจในการออกของตนเอง

โปรแกรมที่ 3 ออกกำลังกายแบบเบา ๆ ที่บ้านด้วยบีสตรอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 15-20 นาที

ค่าใช้จ่าย (**) รวม 6,800 บาท (รวมค่าเช่าอุปกรณ์ และมีมัดจำ 8,000 บาท ได้รับคืนเมื่อคืนอุปกรณ์)

ข้อดี  มีการประเมิน และแนะนำท่าออกฯ ที่เบา ๆ ใช้เวลาในการออกเพียงครั้งละ 15 - 20 นาที ด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อ และการใช้น้ำหนักตัวในการออกฯ เพียงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือ วันเว้นวันและพัก 2 วัน เนื่องจากใช้น้ำหนักที่เบาในการออกฯ ทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดน้อยจึงสามารถออกได้บ่อยขึ้น อาจออกได้ถึง 5 วันต่อสัปดาห์ การออกด้วยบีสตรองช่วยเพิ่มโกรทฮอร์โมน ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้ไวขึ้นอีกด้วย สอบถามท่าออกได้ที่(กดได้เลย) Line @bstrongthailand

ข้อเสีย แรก ๆ อาจไม่คุ้นเคยกับการมีสายรัดบริเวณต้นขา ออกฯ ช้า ๆ เรื่อย ๆ อาจรู้สึกเบื่อได้ และในเดือนที่ 2 ควรมีการเปลี่ยนท่าออกฯ ที่เข้มข้นขึ้นให้เหมาะกับขาที่แข็งแรงขึ้น

ระยะเวลาในการเห็นผล (***) สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานได้ลึกขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกในการออกฯ และเห็นถึงความแข็งแรงของขาได้หลังจากออกไปแล้ว 10 ครั้ง หรือประมาณ 4 สัปดาห์  

B Strong อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่
ที่ใช้ในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ หรือ

สร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง B Strong

เป็นระบบที่ช่วยในการออกกำลังกาย

ด้วยเทคนิค BFR (BLOOD FLOW RESTRICTION) TRAINING

เทคนิคการออกกำลังกายแบบ

ชะลอการไหลเวียนโลหิตที่เมื่อ

นำมาใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายเบาๆ

จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

แม้จะใช้น้ำหนักที่เบา เห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ

ก็สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้นได้

รวมถึงให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัว

และมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อที่บ้านได้ด้วยตนเอง

นวัตกรรมใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา

ที่แพทย์และนักกีฬาอาชีพไว้วางใจ

"มารู้จักวิธีการทำงานของ B Strong กันคับ"

คุณกำลังประสบปัญหานี้หรือไม่

ให้ B Strong

คืนชีวิตที่กระฉับกระเฉงให้คุณอีกครั้ง

กับโปรแกรม 4 สัปดาห์ขาแข็งแรง

กับบีสตรอง*

✅ เดินไม่ได้นานเหมือนก่อน

✅ เสียการทรงตัวง่ายขึ้น หกล้มบ่อยขึ้น

✅ ขามีกำลังถดถอยลง

✅ ขาลีบ หรือ กล้ามเนื้อเริ่มหายไป

✅ ลุกยืนลำบากขึ้น ต้องใช้มือช่วยค้ำ

✅ เดินช้าลง ค่อย ๆ ขึ้นบันได

เมื่ออายุมากขึ้น..

ระดับฮอร์โมนลดลง 

กล้ามเนื้อลดลง 

ความแข็งแรงขาลดลง

 

อุปกรณ์ช่วยประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

B Strong สามารถใช้ได้กับคนสูงวัย วัยทำงาน

นักกีฬา รวมไปถึง ผู้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง

ที่แพทย์แนะนำให้ออกกำลังกาย

หรือทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองที่บ้าน

ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจากประเทศอเมริกา ระบบ BFR

Training ที่สามารถใช้ได้ง่าย และปลอดภัย

อาจเริ่มพบกับภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia)

ซึ่งนำไปสู่การหกล้ม การบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหักร้าวได้ง่ายขึ้น

  B Strong ตัวช่วยที่ใช้เองที่บ้านได้ ใช้งานง่าย ปลอดภัย ได้ผล

เราขอขอบคุณ โรงพยาบาล และคลีนิคกายภาพ ที่ให้ความไว้วางใจในอุปกรณ์ บีสตรอง

และผู้ที่รักการดูแลสุขภาพให้ความไว้วางใจ

สามารถติดต่อใช้บริการ  B Strong BFR Training ได้ที่ รพ.เชียงใหม่ราม รพ.ภูมิพล รพ.สมิติเวช (สุขุมวิท)  รพ.จุฬาภรณ์

สหคลินิคสวนสุขภาพอรุณ  fixme สุภัคคลินิคกายภาพบำบัดศรีราชา ม.มหิดลกายภาพ

”วิดีโอสาธิตการบริหารร่างกายกับบีสตรอง”

1. ผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย ด้วยน้ำหนักที่เบา


2. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย หลังผ่าตัด หรือหลังบาดเจ็บที่ยังไม่สามารถลงน้ำหนักได้


3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มโกรทฮอร์โมนให้ร่างกายจากการออกกำลังกายด้วยการใช้น้ำหนักที่เบาและไม่เสี่ยงบาดเจ็บ

B Strong เหมาะกับใคร?

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ที่ยังไม่ได้รับการรักษา หรือผู้ที่มีรอยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือผู้ที่ออกกำลังกายไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนการออกกำลังกายด้วยบีสตรอง

ถ้าคุณอายุ 60+ เริ่มรู้สึกได้ถึงความถดถอยของขาและ

อยากให้ขาแข็งแรงขึ้นในแบบที่เห็นความแตกต่างได้ในเวลา 4 สัปดาห์*

การออกกำลังกายแบบเบา ๆ ด้วยบีสตรองอาจเป็นคำตอบให้กับคุณ 

เนื้อหาในเพจนี้อาจช่วย

  • ให้ขาคุณแข็งแรงขึ้น ทำให้สนุกกับกิจกรรมเดิม ๆ ที่คุณชื่นชอบ

  • นำความมีชีวิตชีวา กระชับกระเฉงในชีวิตของคุณกลับคืนมา

  • ลดเสี่ยงกับการหกล้ม ก้นกระแทก กระดูกสะโพกร้าว 

 

เนื้อหาในเพจนี้ประกอบด้วย (สามารถคลิกไปอ่านที่ต้องการได้เลย)

รับของขวัญโบนัสอีก 3 รายการ

มูลค่า กว่า 10,600 บาท

Bonus 1. ค้นพบแรงจูงใจ (มูลค่า 5,800 บ.)

ด้วยประสพการณ์ของโค้ชเอ้ ที่เคยเป็นนายกสมาคมสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ (ICF Bangkok Chapter) ที่ทำงานในด้านการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับบุคคลและองค์กรมาเกือบ 2 ทศวรรษ  เราค้นพบว่าแรงจูงใจเป็นหัวใจสำคัญของการที่เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างนึงในชีวิต ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะเพื่อขาที่แข็งแรงขึ้น  สุขภาพที่ดีขึ้น หรือน้ำหนักที่ลดลงหุ่นดีก็ตาม เพราะเรากำลังเปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมเดิม ๆ กิจวัตรเดิมที่ไม่ทำให้ขาเราแข็งแรงขึ้น  แล้วทำไมเราจะต้องเปลี่ยนแปลงด้วย เรามีเป้าหมายอะไรที่สำคัญพอกับเราที่จะลงทุนเงิน ลงทุนเวลา มาออกกำลังกายวันละ 15 -20 นาที  3 ครั้งต่อสัปดาห์ เราอยากแข็งแรงขึ้นเพื่อไปทำอะไร หรือแข็งแรงขึ้นเพื่อใคร  การโค้ชเพื่อค้นพบแรงจูงใจนี้จะช่วยให้เราบริหารร่างกายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มถึงแม้จะเมื่อยล้ามากขึ้นก็ตาม ทำให้อยากตื่นเช้ามาออกกำลังกายเพื่อ...อนาคตของเราที่เปลี่ยนไป

เพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด การโค้ชประกอบด้วย

1. เนื้อหา on-line สามารถดูได้ตามเวลาที่คุณสะดวก และ

2. นัดพูดคุยกับทีมงานโค้ชเอ้ อีก 1 ชม เพื่อเน้นเป้าหมาย และแรงจูงใจที่ใช่สำหรับคุณ

ฺBonus 2. การประเมินความแข็งแรงของขา (มูลค่า 4,800 บ.)

จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม เราอยากรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ตรงไหน และกำลังจะไปที่ใด 

การประเมินความแข็งแรงก่อนเริ่มโปรแกรมจึงมีความสำคัญอย่างมากในการที่จะทำให้เราได้ทราบว่า ณ ตอนนี้ ความแข็งแรงเราอยู่ที่จุดใด และสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นช่วยพาให้เราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้หรือไม่   การใช้ท่าบริหารที่เบาเกินไปก็จะไม่กระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น การที่ใช้ท่าบริหารที่หนักเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บ หรือต้องพักนานขึ้น หรือบางครั้งอาจทำให้ท้อจนไม่อยากทำต่อ การประเมินมี 3 ครั้งด้วยกัน 

- การประเมินครั้งแรกทำก่อนเริ่มโปรแกรม ณ วันที่มารับอุปกรณ์ หรือทำผ่านออนไลน์ ร่วมกับทีมงาน

- ครั้งที่สองทำวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 2 หลังออกฯ มาแล้ว 6 ครั้ง และ

- ครั้งที่สามทำวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 4 หลังออกฯ มาแล้ว 10-12 ครั้ง

การประเมินทั้ง 3 ครั้งทำผ่านออนไลน์กับทีมงานของโค้ชเอ้

Bonus 3 ได้รับสิทธิใช้บีสตรอง เพิ่มอีก 2 สัปดาห์เต็ม 

บีสตรองเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การออกกำลังกายของเรามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Blood Flow Restriction (BFR)  ถึงแม้จะบริหารร่างกายด้วยท่าที่เบา หรือใช้น้ำหนักที่เบา ๆ ในการออกฯ ก็ตาม  ผลจากงานวิจัยเปรียบเทียบการออกแบบเบา ๆ เมื่อใช้เทคนิคนี้คือ 

1. กล้ามเนื้อบริเวณที่ออกกำลังกายมีความแข็งแรงขึ้น มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่าจะใช้น้ำหนักที่เบาก็าม และ

2. มีระดับ Growth Hormone ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อเทียบกับการออกฯ เบา ๆ ในแบบเดียวกัน

เลขที่บัญชี

รวมความคุ้มค่าทั้งหมด

มูลค่ากว่า 10,600 บาท

สมัครตอนนี้ โปรโมชั่น

ติดต่อเรา เพื่อสอบถาม โปรโมชั่นเดือนนี้ 

เหลือเพียง  4,800 บาท เท่านั้น  (ภายใน 15 กค นี้ จำกัด 15 ท่านแรก !!)

รวมความคุ้มค่าทั้งหมด

มูลค่ากว่า 10,000 บาท

สมัครตอนนี้ โปรโมชั่น

ช่องทางชำระเงิน

เลขที่บัญชี

0128698434

ชื่อบัญชี

บริษัท พาวเวอร์อินมี จำกัด

โปรดส่งหลักฐานการสมัครทันที

เพื่อรักษาสิทธิ์โบนัสต่าง ๆ ของท่าน

ส่งหลักฐานการสมัครได้ที่ไลน์

LINE ID:  @bstrongthailand

หรือคลิกปุ่มด้านล่าง

สิ่งที่คุณจะได้มากกว่าการออกกำลังกาย

คือ การกลับไปใช้ชีวิตที่ดี มีคุณภาพกับครอบครัว

มีขาแข็งแรง กระฉับกระเฉง ในแบบที่ประเมินมูลค่าไม่ได้

"พี่กลับไปยืนสอนได้นานขึ้น"  อาจารย์เปิ้ล วัย 60+

"พี่ เดินขึ้นบันไดได้ไวขึ้น ไม่ต้องโหนราวบันไดแล้ว"  พี่กุศลิน นักบัญชี วัยเกษียน

"ของคุณดีจริง พี่เล่นมา 3 สัปดาห์ขาแข็งแรงขึ้นมาก"  พี่สิทธา วัยเกษียน

"เดินจากบ้านไปโรงพยาบาล ได้สบาย ๆ เลยตอนนี้ ไม่กลัวหกล้มเหมือนก่อน"  พี่อร วัยเกษียน

เกี่ยวกับโค้ชเอ้

วิทวัส เกษมวุฒิ (โค้ชเอ้)

นายกสมาคมสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ

✅ โค้ชเอ้ มีความสนใจในการพัฒนาศักยภาพของบุคคล และองค์กร มาเกือบ 2 ทศวรรษ

✅ จบการศึกษา ป.ตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศอเมริกา

✅ จบการศึกษา ป.โท ด้านการเงินจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

✅ อดีตผู้บริหาร ธนาคาร Standard Chartered Bank, ธนาคารทหารไทย

✅ ประธานปี 2020 สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ

✅ อดีตนายกสมาคม สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ

✅ โค้ชด้านภาวะผู้นำ ให้กับเจ้าของธุรกิจ และผู้บริหารในองค์กร

✅ Professional Certified Coach ที่มีประสบการณืมากกว่า 2,000 ชั่วโมง

✅ Certified Senior Fitness Fit Thailand

✅ Youtube. 50Strong BStrongthailand เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง

✅ วิทยากรพิเศษ ด้าน BFR Training

ไม่ต้องกังวลว่าจะทำได้ไหมนะครับ

...เพราะ...

ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าคุณไม่เก่ง หรือ ไม่มีวินัย

... แต่เป็นเพราะ ...

เครื่องมือที่คุณมียังไม่ครบ เท่านั้นเองครับ

เมื่อได้เครื่องมือจากผมไปครบรอบด้าน

และมีตัวช่วยบูสการออกเบา ๆ ให้ได้ผลยิ่งขึ้น

ทุกอย่างจะง่ายขึ้น  เห็นผลไว

ความแข็งแรง และคุณภาพชีวิต ที่ต้องการจะกลับคืนมาในเวลาไม่นาน

โปรแกรม

ขาแข็งแรงขึ้นใน 4 สัปดาห์

ถ้าคุณอยากให้ขาแข็งแรงขึ้น และคุณพร้อมออกกำลังกายเองที่บ้านแบบเบา ๆ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ

ครั้งละ 15-20 นาที สมัครวันนี้ได้ในราคาพิเศษ  แถมรับโบนัสเพิ่มอีกมูลค่า 10,600 บาท

โปรแกรมขาแข็งแรงขึ้นใน 4 สัปดาห์ คือ

โปรแกรมบริหารกล้ามเนื้อขา ด้วยการออกกำลังกายแบบเบา ๆ

ที่เน้นให้เห็นผลลัพธ์ในแบบที่จับต้องได้ และไม่เสี่ยงกับการบาดเจ็บ

✅ โปรแกรมเหมาะกับใครบ้าง

- คนวัย 55 - 65 ปี ที่เริ่มรู้สึกถึงกำลังขาเริ่มถดถอยลง เช่นเวลาขึ้นบันได เวลาลุกนั่ง เริ่มยากขึ้น

- ได้ทดสอบ ยืนขาเดียว แล้วได้ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีขาข้างใดข้างนึงไม่ถึง 20 วินาที

- ชอบเห็นผลลัพธ์ในการพัฒนากล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงขึ้น และชอบวัดความคืบหน้า

- ออกกำลังกายได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที (ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้)

- อยากออกด้วยน้ำหนักที่เบา ไม่อยากเสี่ยงบาดเจ็บ

❎ โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับ

- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและยังไม่ทานยา หรือเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ

- ไม่พร้อมบริหารร่างกาย ออกกำลังกายไม่ได้ หรืออาจจะยังไม่อยากออกฯ

- ผู้ที่ชอบใช้อุปกรณ์เยอะ ชอบออกหนัก ๆ 

โปรแกรม ขาแข็งแรงใน 4 สัปดาห์ ประกอบด้วย

1. รับอุปกรณ์บีสตรองมูลค่า 24,900 บาท ไปใช้ออกกำลังกายที่บ้าน  (มีค่ามัดจำ อุปกรณ์ 9,000 บาท)

2. วีดีโอการใช้งานและท่าบริหาร ถึง 2 ระดับความเข้มข้นด้วยกัน

3. โปรแกรมการออกกำลังกายตลอด 4 สัปดาห์

2 วิธีทดสอบความแข็งแรงของขา

กับโค้ชเอ้  Master B Strong Trainer ผู้เชี่ยวชาญการดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วย B Strong

ประสบการณ์ช่วยให้คนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก

โปรแกรมที่ 2 ออกกำลังกายกับเทรนเนอร์หรือนักกายภาพ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้เห็นความแตกต่างได้ใน 8 สัปดาห์

ค่าใช้จ่าย (***) ค่าใช้จ่ายรวม 16,000 บาทสำหรับโปรแกรม 2 เดือน โดยคำนวณจาก ค่าเทรนเนอร์ครั้งละประมาณ 800 - 1200 บาทต่อครั้ง เดือนละ 8 ครั้ง ๆ ละโดยเฉลี่ย 1000 บาท

ข้อดี  มีคนช่วยแนะนำการออกกำลังกาย ได้ออกฯ อย่างน้อย 60 นาทีต่อครั้ง ได้ออกฯ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ น่าจะเห็นผลได้ใน 8 สัปดาห์ ถ้าใช้น้ำหนักที่หนักเพียงพอ

ข้อเสีย ถ้าใช้น้ำหนักที่เบาเกินไปก็อาจจะไม่เห็นผล ถ้าใช้น้ำหนักที่หนักเกินไปอาจทำให้ข้อต่อ เช่นข้อศอกหรือหัวเข่ามีอาการเจ็บได้

ระยะเวลาในการเห็นผล (**) ใช้เวลาประมาณ 60 นาทีต่อครั้ง (ถูกบังคับโดยเวลาของเทรนเนอร์ และนักกายภาพ) การพักฟื้นหลังออกฯ อาจจะหลายวันเพราะอาการปวดเมื่อยจากการใช้น้ำหนักที่มาก อาจทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดมากเกินไป

bottom of page