ปัญหามวลกล้ามเนื้อน้อย | B Strong Thailand
top of page
S__16728080.jpg

B STRONG

ออกเบาฯ ช่วยคุณแก้ปัญหา

มวลกล้ามเนื้อลดลง (sarcopenia)

แรงขาเริ่มถดถอยลง

ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยคืออะไร ?

 

ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia)

เป็นการลดลงของมวลกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ส่งผลต่อสมรรถนะของร่างกาย เมื่ออายุเข้าสู่อายุช่วง 40 ปีขึ้นไป

ร่างกายจะเริ่มมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

"เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป

การสลายของมวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มมากถึง 15% ทำให้เห็นได้ว่า

มวลกล้ามเนื้อของเราจะหายไปถึง 1 ใน 3"

โดยภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยลง

ในผู้สูงอายุถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยง

ในการหกล้ม เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย กระดูกหัก หรือ ร้าว

ส่งผลกระทบกับสุขภาพ และการทำกิจวัตรประจำวัน

ฟีดแบ็คจากผู้เข้าโปรแกรม กับบีสตรอง

บีสตรอง คืออะไร 

ติดตามเคล็ดลับดูแลสุขภาพในวัย 50+ โดย “โค้ชเอ้”

และทีมผู้เชี่ยวชาญจาก B STRONG THAILAND ได้ที่

วิธีที่ 2 ลุกนั่ง 30 วินาที

วิธีทดสอบโดยการลุกนั่งจากเก้าอี้ว่าสามารถทำได้กี่ครั้งในเวลา 30 วินาที  เป็นการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและก้นที่ใช้ในการลุกขึ้นยืน เดินขึ้นบันได หรือลงนั่ง  

วิธี 1 การยืนขาเดียว

เป็นการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาแต่ละข้าง ว่ามาสามารถทรงได้ดีมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในช่วงอายุเดียวกัน ให้เตรียมนาฬิกาจับเวลา เมื่อพร้อมให้ยืนตรง เท้าสองข้างชิดกัน มือวางข้างลำตัว (เพื่อความปลอดภัยให้มีกำแพงหรือโต๊ะเพื่อให้เกาะได้ขณะทดสอบ สำหรับเวลาที่อาจเสียสมดุลย์) 

การทดสอบมีขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มจากทดสอบขาข้างขวา โดย วางมืออยู่ข้างลำตัว

  2. ยกเท้าซ้ายสูงขึ้นจากพื้นอย่างน้อย 12 นิ้ว และเริ่มจับเวลา

  3. จับเวลาขณะยกเท้าซ้าย หยุดเวลาเมื่อมีการเซ หรือเสียสมดุลย์

  4. บันทึกเวลา และ สลับไปทำอีกข้าง 

  5. ทำทั้งหมด 3 ครั้งและหาค่าเฉลี่ย

 

ให้เทียบเวลาค่าเฉลี่ยของคุณกับค่าเฉลี่ยจากงานวิจัย  ด้านล่างนี้

อายุ 50 - 59 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 37 วินาที

อายุ 60 - 69 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 27 วินาที

อายุ 70 - 79 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 19 วินาที

การทดสอบมีขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มจากทดสอบขาข้างขวา โดย มืออยู่ข้างลำตัว

  2. ยกเท้าซ้ายสูงขึ้นจากพื้นอย่างน้อย 12 นิ้ว และเริ่มจับเวลา

  3. จับเวลาขณะยกเท้าซ้าย หยุดเวลาเมื่อมีการเซ หรือเสียสมดุลย์

  4. บันทึกเวลา และ สลับไปทำอีกข้าง 

  5. ทำทั้งหมด 3 ครั้งและหาค่าเฉลี่ย

 

ให้เทียบเวลาค่าเฉลี่ยของคุณกับค่าเฉลี่ยจากงานวิจัย  ด้านล่างนี้

อายุ 50 - 59 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 37 วินาที

อายุ 60 - 69 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 27 วินาที

อายุ 70 - 79 ปี ควรมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 19 วินาที

3 สาเหตุที่ “มวลกล้ามเนื้อลดลง”

1. การใช้กล้ามเนื้อลดลง หรือออกกำลังกายน้อยเกินไปการออกกำลังไม่เพียงพอ

เพราะว่าในผู้สูงอายุบางคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย โดยชีวิตนั่ง ๆ นอน ๆ และเมื่ออายุเยอะขึ้นสิ่งที่เกิดตามมา คือ ร่างกายจะมีการสูญเสียกล้ามเนื้อมากกว่าการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อของเราลดลงไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี

​2. การบริโภคอาหารที่ลดลง โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีนเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น

กล้ามเนื้อมีการสูญเสียประมาณ 1 - 2% ต่อปี โดยปริมาณที่ควรบริโภคขึ้นอยู่กับปริมาณและความหนัก ของกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันนั้น ๆ ซึ่งเมื่อมีการบริโภคโปรตีนลดลงก็จะทำให้การสร้างกล้ามเนื้อลดลงไปด้วย โดยเฉลี่ยควรบริโภคโปรตีน 1-2 กรับ ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล (เช่นหนัก 50 กิโลควรบริโภคโปรตีน 50-100 กรัม เป็นต้น)

​3.ฮอร์โมนลดลง ทำให้การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ไม่ทันกับการสูญเสียของกล้ามเนื้อที่หายไปในแต่ละวัน ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง ระบบกล้ามเนื้อและการเผาผลาญมีประสิทธิภาพลดลง รู้สึกไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง หรือ ความแข็งแรง กล้ามเนื้อลดลง

โดยมีวิธีดังนี้  

  1. นั่งบนเก้าอี้ที่สูงจากพื้น 17 นิ้ว

  2. วางมือทั้ง 2  ข้างไว้ที่หน้าอก  

  3. เริ่มลุกขึ้นยืน และนั่งลงให้ได้มากที่สุดในเวลา 30 วินาที 

  4. เมื่อหมดเวลา ให้เทียบจำนวนครั้งของคุณกับตารางด้านล่าง

อายุ 60 - 64 ปี ผู้ชาย 14 ครั้ง  ผู้หญิง 12 ครั้ง 

อายุ 65 - 69 ปี ผู้ชาย 12 ครั้ง  ผู้หญิง 11 ครั้ง 

อายุ 70 - 79 ปี ผู้ชาย 12 ครั้ง  ผู้หญิง 10 ครั้ง 

แหล่งที่มา คำแนะนำของ CDC 

Exclusively at Our Online Store

B STRONG

01.

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น มือหรือแขน ให้มีกล้ามเนื้อและมีแรงมากขึ้น แนะนำ Set Upper Body >

02.

เพิ่มตวามแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น ขา เพื่อช่วยในการยืนการเดินที่นานขึ้น มั่นคงขึ้น  แนะนำ Set Lower Body >

03.

เพิ่มฮอร์โมนการเติบโต (Growth Hormone) 

เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มมวลกระดูก เพื่อการชลอวัย 

(anti-aging) แบบวัดผลได้ แนะนำ Set Full Body >

แค่ใส่สายรัด B Strong กล้ามเนื้อก็แข็งแรงได้

เพียงออกกำลังกายเบาๆ

เพิ่มโกรทฮอร์โมนร่างกาย ด้วยสายรัด B Strong

กับ "โค้ชเอ้"

เปรียบเทียบ 3 โปรแกรม เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

ในส่วนนี้เราพูดถึงแค่เรื่องของการบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แต่อีก 2 ปัจจัยที่สำคัญคือการพักผ่อน และการทานโปรตีนให้เพียงพอเพื่อเป็นสารอาหารที่ใช้ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับเราได้  ทางเลือกในการออกกำลังกายมีหลายทางเลือกด้วยกัน แต่เราจะเปรียบเทียบใน 3 โปรแกรมด้วยกัน

โปรแกรมที่ 1 ออกกำลังกายเองที่บ้าน  ใช้บอดี้เวท ใช้ถุงทราย ดัมเบล step-up เสื่อโยคะ

ค่าใช้จ่าย (*) สำหรับบอดี็เวท ไม่มี คชจ.  ค่าอุปกรณ์เช่นดัมเบล ถุงทรายราคาย่อมเยาว์

ข้อดี  ออกได้เอง ออกเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเดินทาง ใช้ต้นทุนอุปกรณ์ต่ำ ทำได้ทุกวัน

ข้อเสีย น้ำหนักที่ใช้อาจเบาเกินไปทำให้กล้ามเนื้อไปไม่ถึงจุดล้า ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีเป็นอย่างน้อย ท่าที่ใช้ออกอาจไม่ตรงจุดกับมัดกล้ามเนื้อที่ต้องการ

ระยะเวลาในการเห็นผล (*) ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจในการออกของตนเอง

โปรแกรมที่ 3 ออกกำลังกายแบบเบา ๆ ที่บ้านด้วยบีสตรอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 15-20 นาที

ค่าใช้จ่าย (**) รวม 6,800 บาท (รวมค่าเช่าอุปกรณ์ และมีมัดจำ 8,000 บาท ได้รับคืนเมื่อคืนอุปกรณ์)

ข้อดี  มีการประเมิน และแนะนำท่าออกฯ ที่เบา ๆ ใช้เวลาในการออกเพียงครั้งละ 15 - 20 นาที ด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อ และการใช้น้ำหนักตัวในการออกฯ เพียงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือ วันเว้นวันและพัก 2 วัน เนื่องจากใช้น้ำหนักที่เบาในการออกฯ ทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดน้อยจึงสามารถออกได้บ่อยขึ้น อาจออกได้ถึง 5 วันต่อสัปดาห์ การออกด้วยบีสตรองช่วยเพิ่มโกรทฮอร์โมน ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้ไวขึ้นอีกด้วย สอบถามท่าออกได้ที่(กดได้เลย) Line @bstrongthailand

ข้อเสีย แรก ๆ อาจไม่คุ้นเคยกับการมีสายรัดบริเวณต้นขา ออกฯ ช้า ๆ เรื่อย ๆ อาจรู้สึกเบื่อได้ และในเดือนที่ 2 ควรมีการเปลี่ยนท่าออกฯ ที่เข้มข้นขึ้นให้เหมาะกับขาที่แข็งแรงขึ้น

ระยะเวลาในการเห็นผล (***) สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานได้ลึกขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกในการออกฯ และเห็นถึงความแข็งแรงของขาได้หลังจากออกไปแล้ว 10 ครั้ง หรือประมาณ 4 สัปดาห์  

B Strong อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่
ที่ใช้ในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ หรือ

สร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง B Strong

เป็นระบบที่ช่วยในการออกกำลังกาย

ด้วยเทคนิค BFR (BLOOD FLOW RESTRICTION) TRAINING

เทคนิคการออกกำลังกายแบบ

ชะลอการไหลเวียนโลหิตที่เมื่อ

นำมาใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายเบาๆ

จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

แม้จะใช้น้ำหนักที่เบา เห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ

ก็สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้นได้

รวมถึงให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัว

และมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อที่บ้านได้ด้วยตนเอง

นวัตกรรมใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา

ที่แพทย์และนักกีฬาอาชีพไว้วางใจ

"มารู้จักวิธีการทำงานของ B Strong กันคับ"

คุณกำลังประสบปัญหานี้หรือไม่

ให้ B Strong

คืนชีวิตที่กระฉับกระเฉงให้คุณอีกครั้ง

กับโปรแกรม 4 สัปดาห์ขาแข็งแรง

กับบีสตรอง*

✅ เดินไม่ได้นานเหมือนก่อน

✅ เสียการทรงตัวง่ายขึ้น หกล้มบ่อยขึ้น

✅ ขามีกำลังถดถอยลง

✅ ขาลีบ หรือ กล้ามเนื้อเริ่มหายไป

✅ ลุกยืนลำบากขึ้น ต้องใช้มือช่วยค้ำ

✅ เดินช้าลง ค่อย ๆ ขึ้นบันได

เมื่ออายุมากขึ้น..

ระดับฮอร์โมนลดลง 

กล้ามเนื้อลดลง 

ความแข็งแรงขาลดลง

 

อุปกรณ์ช่วยประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

B Strong สามารถใช้ได้กับคนสูงวัย วัยทำงาน

นักกีฬา รวมไปถึง ผู้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง

ที่แพทย์แนะนำให้ออกกำลังกาย

หรือทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองที่บ้าน

ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจากประเทศอเมริกา ระบบ BFR

Training ที่สามารถใช้ได้ง่าย และปลอดภัย

อาจเริ่มพบกับภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia)

ซึ่งนำไปสู่การหกล้ม การบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหักร้าวได้ง่ายขึ้น

  B Strong ตัวช่วยที่ใช้เองที่บ้านได้ ใช้งานง่าย ปลอดภัย ได้ผล

เราขอขอบคุณ โรงพยาบาล และคลีนิคกายภาพ ที่ให้ความไว้วางใจในอุปกรณ์ บีสตรอง

และผู้ที่รักการดูแลสุขภาพให้ความไว้วางใจ

สามารถติดต่อใช้บริการ  B Strong BFR Training ได้ที่ รพ.เชียงใหม่ราม รพ.ภูมิพล รพ.สมิติเวช (สุขุมวิท)  รพ.จุฬาภรณ์

สหคลินิคสวนสุขภาพอรุณ  fixme สุภัคคลินิคกายภาพบำบัดศรีราชา ม.มหิดลกายภาพ

”วิดีโอสาธิตการบริหารร่างกายกับบีสตรอง”

1. ผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย ด้วยน้ำหนักที่เบา


2. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย หลังผ่าตัด หรือหลังบาดเจ็บที่ยังไม่สามารถลงน้ำหนักได้


3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มโกรทฮอร์โมนให้ร่างกายจากการออกกำลังกายด้วยการใช้น้ำหนักที่เบาและไม่เสี่ยงบาดเจ็บ

B Strong เหมาะกับใคร?

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ที่ยังไม่ได้รับการรักษา หรือผู้ที่มีรอยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือผู้ที่ออกกำลังกายไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนการออกกำลังกายด้วยบีสตรอง

ถ้าคุณอายุ 60+ เริ่มรู้สึกได้ถึงความถดถอยของขาและ

อยากให้ขาแข็งแรงขึ้นในแบบที่เห็นความแตกต่างได้ในเวลา 4 สัปดาห์*

การออกกำลังกายแบบเบา ๆ ด้วยบีสตรองอาจเป็นคำตอบให้กับคุณ 

เนื้อหาในเพจนี้อาจช่วย

  • ให้ขาคุณแข็งแรงขึ้น ทำให้สนุกกับกิจกรรมเดิม ๆ ที่คุณชื่นชอบ

  • นำความมีชีวิตชีวา กระชับกระเฉงในชีวิตของคุณกลับคืนมา

  • ลดเสี่ยงกับการหกล้ม ก้นกระแทก กระดูกสะโพกร้าว 

 

เนื้อหาในเพจนี้ประกอบด้วย (สามารถคลิกไปอ่านที่ต้องการได้เลย)

ราคาเต็ม  6,800 บาท

เหลือเพียง  5,800 บาท เท่านั้น  !!

พิเศษ !!

สำหรับท่านที่สมัครภายใน 30 ธันวาคม นี้

(จำกัด 10 ท่านแรก)

รับของขวัญโบนัสอีก 3 รายการ

มูลค่า กว่า 10,600 บาท

Bonus 1. ค้นพบแรงจูงใจ (มูลค่า 5,800 บ.)

ด้วยประสพการณ์ของโค้ชเอ้ ที่เคยเป็นนายกสมาคมสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ (ICF Bangkok Chapter) ที่ทำงานในด้านการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับบุคคลและองค์กรมาเกือบ 2 ทศวรรษ  เราค้นพบว่าแรงจูงใจเป็นหัวใจสำคัญของการที่เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างนึงในชีวิต ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะเพื่อขาที่แข็งแรงขึ้น  สุขภาพที่ดีขึ้น หรือน้ำหนักที่ลดลงหุ่นดีก็ตาม เพราะเรากำลังเปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมเดิม ๆ กิจวัตรเดิมที่ไม่ทำให้ขาเราแข็งแรงขึ้น  แล้วทำไมเราจะต้องเปลี่ยนแปลงด้วย เรามีเป้าหมายอะไรที่สำคัญพอกับเราที่จะลงทุนเงิน ลงทุนเวลา มาออกกำลังกายวันละ 15 -20 นาที  3 ครั้งต่อสัปดาห์ เราอยากแข็งแรงขึ้นเพื่อไปทำอะไร หรือแข็งแรงขึ้นเพื่อใคร  การโค้ชเพื่อค้นพบแรงจูงใจนี้จะช่วยให้เราบริหารร่างกายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มถึงแม้จะเมื่อยล้ามากขึ้นก็ตาม ทำให้อยากตื่นเช้ามาออกกำลังกายเพื่อ...อนาคตของเราที่เปลี่ยนไป

เพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด การโค้ชประกอบด้วย

1. เนื้อหา on-line สามารถดูได้ตามเวลาที่คุณสะดวก และ

2. นัดพูดคุยกับทีมงานโค้ชเอ้ อีก 1 ชม เพื่อเน้นเป้าหมาย และแรงจูงใจที่ใช่สำหรับคุณ

ฺBonus 2. การประเมินความแข็งแรงของขา (มูลค่า 4,800 บ.)

จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม เราอยากรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ตรงไหน และกำลังจะไปที่ใด 

การประเมินความแข็งแรงก่อนเริ่มโปรแกรมจึงมีความสำคัญอย่างมากในการที่จะทำให้เราได้ทราบว่า ณ ตอนนี้ ความแข็งแรงเราอยู่ที่จุดใด และสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นช่วยพาให้เราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้หรือไม่   การใช้ท่าบริหารที่เบาเกินไปก็จะไม่กระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น การที่ใช้ท่าบริหารที่หนักเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บ หรือต้องพักนานขึ้น หรือบางครั้งอาจทำให้ท้อจนไม่อยากทำต่อ การประเมินมี 3 ครั้งด้วยกัน 

- การประเมินครั้งแรกทำก่อนเริ่มโปรแกรม ณ วันที่มารับอุปกรณ์ หรือทำผ่านออนไลน์ ร่วมกับทีมงาน

- ครั้งที่สองทำวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 2 หลังออกฯ มาแล้ว 6 ครั้ง และ

- ครั้งที่สามทำวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 4 หลังออกฯ มาแล้ว 10-12 ครั้ง

การประเมินทั้ง 3 ครั้งทำผ่านออนไลน์กับทีมงานของโค้ชเอ้

Bonus 3 ได้รับสิทธิใช้บีสตรอง เพิ่มอีก 2 สัปดาห์เต็ม 

บีสตรองเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การออกกำลังกายของเรามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Blood Flow Restriction (BFR)  ถึงแม้จะบริหารร่างกายด้วยท่าที่เบา หรือใช้น้ำหนักที่เบา ๆ ในการออกฯ ก็ตาม  ผลจากงานวิจัยเปรียบเทียบการออกแบบเบา ๆ เมื่อใช้เทคนิคนี้คือ 

1. กล้ามเนื้อบริเวณที่ออกกำลังกายมีความแข็งแรงขึ้น มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่าจะใช้น้ำหนักที่เบาก็าม และ

2. มีระดับ Growth Hormone ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อเทียบกับการออกฯ เบา ๆ ในแบบเดียวกัน

เลขที่บัญชี

รวมความคุ้มค่าทั้งหมด

มูลค่ากว่า 10,600 บาท

สมัครตอนนี้ โปรโมชั่น

เหลือเพียง  5,800 บาท เท่านั้น 

(ภายใน 30 ธค นี้ จำกัด 10 ท่านแรก !!)

ช่องทางชำระเงิน

เลขที่บัญชี  0128698434

ชื่อบัญชี บริษัท พาวเวอร์อินมี จำกัด

โปรดส่งหลักฐานการสมัครทันที

เพื่อรักษาสิทธิ์โบนัสต่าง ๆ ของท่าน

ส่งหลักฐานการสมัครได้ที่ไลน์

LINE ID:  @bstrongthailand

หรือคลิกปุ่มด้านล่าง

เหลือเพียง  4,800 บาท เท่านั้น  (ภายใน 15 กค นี้ จำกัด 15 ท่านแรก !!)

รวมความคุ้มค่าทั้งหมด

มูลค่ากว่า 10,000 บาท

สมัครตอนนี้ โปรโมชั่น

ช่องทางชำระเงิน

เลขที่บัญชี

0128698434

ชื่อบัญชี

บริษัท พาวเวอร์อินมี จำกัด

โปรดส่งหลักฐานการสมัครทันที

เพื่อรักษาสิทธิ์โบนัสต่าง ๆ ของท่าน

ส่งหลักฐานการสมัครได้ที่ไลน์

LINE ID:  @bstrongthailand

หรือคลิกปุ่มด้านล่าง

สิ่งที่คุณจะได้มากกว่าการออกกำลังกาย

คือ การกลับไปใช้ชีวิตที่ดี มีคุณภาพกับครอบครัว

มีขาแข็งแรง กระฉับกระเฉง ในแบบที่ประเมินมูลค่าไม่ได้

"พี่กลับไปยืนสอนได้นานขึ้น"  อาจารย์เปิ้ล วัย 60+

"พี่ เดินขึ้นบันไดได้ไวขึ้น ไม่ต้องโหนราวบันไดแล้ว"  พี่กุศลิน นักบัญชี วัยเกษียน

"ของคุณดีจริง พี่เล่นมา 3 สัปดาห์ขาแข็งแรงขึ้นมาก"  พี่สิทธา วัยเกษียน

"เดินจากบ้านไปโรงพยาบาล ได้สบาย ๆ เลยตอนนี้ ไม่กลัวหกล้มเหมือนก่อน"  พี่อร วัยเกษียน

เกี่ยวกับโค้ชเอ้

วิทวัส เกษมวุฒิ (โค้ชเอ้)

นายกสมาคมสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ

✅ โค้ชเอ้ มีความสนใจในการพัฒนาศักยภาพของบุคคล และองค์กร มาเกือบ 2 ทศวรรษ

✅ จบการศึกษา ป.ตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศอเมริกา

✅ จบการศึกษา ป.โท ด้านการเงินจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

✅ อดีตผู้บริหาร ธนาคาร Standard Chartered Bank, ธนาคารทหารไทย

✅ ประธานปี 2020 สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ

✅ อดีตนายกสมาคม สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพ

✅ โค้ชด้านภาวะผู้นำ ให้กับเจ้าของธุรกิจ และผู้บริหารในองค์กร

✅ Professional Certified Coach ที่มีประสบการณืมากกว่า 2,000 ชั่วโมง

✅ Certified Senior Fitness Fit Thailand

✅ Youtube. 50Strong BStrongthailand เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง

✅ วิทยากรพิเศษ ด้าน BFR Training

ไม่ต้องกังวลว่าจะทำได้ไหมนะครับ

...เพราะ...

ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าคุณไม่เก่ง หรือ ไม่มีวินัย

... แต่เป็นเพราะ ...

เครื่องมือที่คุณมียังไม่ครบ เท่านั้นเองครับ

เมื่อได้เครื่องมือจากผมไปครบรอบด้าน

และมีตัวช่วยบูสการออกเบา ๆ ให้ได้ผลยิ่งขึ้น

ทุกอย่างจะง่ายขึ้น  เห็นผลไว

ความแข็งแรง และคุณภาพชีวิต ที่ต้องการจะกลับคืนมาในเวลาไม่นาน

คนอื่นทำได้  คุณก็ทำได้เช่นกันครับ

แล้วพบกันในโปรแกรมนะครับ

สมัครเลย

ค่าสมัครโปรโมชั่นวันนี้

เพียง  5,800 บาท เท่านั้น 

(ภายใน 30 ธค นี้  จำกัด 10 ท่านแรก !! 

+ ฟรีโบนัส มูลค่ากว่า 10,000 บาท)

ช่องทางชำระเงิน

เลขที่บัญชี 0128698434

ชื่อบัญชี บริษัท พาวเวอร์อินมี จำกัด

โปรดส่งหลักฐานการสมัครทันที

เพื่อรักษาสิทธิ์โบนัสต่าง ๆ ของท่าน

ส่งหลักฐานการสมัครได้ที่ไลน์

LINE ID:  @bstrongthailand

หรือคลิกปุ่มด้านล่าง

โปรแกรม

ขาแข็งแรงขึ้นใน 4 สัปดาห์

ถ้าคุณอยากให้ขาแข็งแรงขึ้น และคุณพร้อมออกกำลังกายเองที่บ้านแบบเบา ๆ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ

ครั้งละ 15-20 นาที สมัครวันนี้ได้ในราคาพิเศษ  แถมรับโบนัสเพิ่มอีกมูลค่า 10,600 บาท

โปรแกรมขาแข็งแรงขึ้นใน 4 สัปดาห์ คือ

โปรแกรมบริหารกล้ามเนื้อขา ด้วยการออกกำลังกายแบบเบา ๆ

ที่เน้นให้เห็นผลลัพธ์ในแบบที่จับต้องได้ และไม่เสี่ยงกับการบาดเจ็บ

✅ โปรแกรมเหมาะกับใครบ้าง

- คนวัย 55 - 65 ปี ที่เริ่มรู้สึกถึงกำลังขาเริ่มถดถอยลง เช่นเวลาขึ้นบันได เวลาลุกนั่ง เริ่มยากขึ้น

- ได้ทดสอบ ยืนขาเดียว แล้วได้ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีขาข้างใดข้างนึงไม่ถึง 20 วินาที

- ชอบเห็นผลลัพธ์ในการพัฒนากล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงขึ้น และชอบวัดความคืบหน้า

- ออกกำลังกายได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที (ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้)

- อยากออกด้วยน้ำหนักที่เบา ไม่อยากเสี่ยงบาดเจ็บ

❎ โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับ

- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและยังไม่ทานยา หรือเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ

- ไม่พร้อมบริหารร่างกาย ออกกำลังกายไม่ได้ หรืออาจจะยังไม่อยากออกฯ

- ผู้ที่ชอบใช้อุปกรณ์เยอะ ชอบออกหนัก ๆ 

โปรแกรม ขาแข็งแรงใน 4 สัปดาห์ ประกอบด้วย

1. รับอุปกรณ์บีสตรองมูลค่า 24,900 บาท ไปใช้ออกกำลังกายที่บ้าน  (มีค่ามัดจำ อุปกรณ์ 9,000 บาท)

2. วีดีโอการใช้งานและท่าบริหาร ถึง 2 ระดับความเข้มข้นด้วยกัน

3. โปรแกรมการออกกำลังกายตลอด 4 สัปดาห์

2 วิธีทดสอบความแข็งแรงของขา

กับโค้ชเอ้  Master B Strong Trainer ผู้เชี่ยวชาญการดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วย B Strong

ประสบการณ์ช่วยให้คนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก

โปรแกรมที่ 2 ออกกำลังกายกับเทรนเนอร์หรือนักกายภาพ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้เห็นความแตกต่างได้ใน 8 สัปดาห์

ค่าใช้จ่าย (***) ค่าใช้จ่ายรวม 16,000 บาทสำหรับโปรแกรม 2 เดือน โดยคำนวณจาก ค่าเทรนเนอร์ครั้งละประมาณ 800 - 1200 บาทต่อครั้ง เดือนละ 8 ครั้ง ๆ ละโดยเฉลี่ย 1000 บาท

ข้อดี  มีคนช่วยแนะนำการออกกำลังกาย ได้ออกฯ อย่างน้อย 60 นาทีต่อครั้ง ได้ออกฯ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ น่าจะเห็นผลได้ใน 8 สัปดาห์ ถ้าใช้น้ำหนักที่หนักเพียงพอ

ข้อเสีย ถ้าใช้น้ำหนักที่เบาเกินไปก็อาจจะไม่เห็นผล ถ้าใช้น้ำหนักที่หนักเกินไปอาจทำให้ข้อต่อ เช่นข้อศอกหรือหัวเข่ามีอาการเจ็บได้

ระยะเวลาในการเห็นผล (**) ใช้เวลาประมาณ 60 นาทีต่อครั้ง (ถูกบังคับโดยเวลาของเทรนเนอร์ และนักกายภาพ) การพักฟื้นหลังออกฯ อาจจะหลายวันเพราะอาการปวดเมื่อยจากการใช้น้ำหนักที่มาก อาจทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดมากเกินไป

bottom of page